รีวิวมังงะ Chillin’ in My 30s after Getting Fired from the Demon King’s Army (解雇された暗黒兵士): เรื่องแฟนตาซี Narou-kei สุดอบอุ่นที่ไม่ควรพลาด
Chillin’ in My 30s after Getting Fired from the Demon King’s Army (解雇された暗黒兵士(30代)のスローなセカンドライフ, Kaiko sareta Ankoku Heishi (30-dai) no Slow na Second Life)
เรื่องย่อ
- ผู้แต่งดั้งเดิม: อ.คาซาวะ โรคุจูยอน (Okazawa Rokujūyon)
- นิยายแฟนตาซีต่างโลกจากเว็บไซต์ “Shōsetsuka ni Narō”
- กลุ่มเป้าหมาย: ผู้ชาย
- แนวเรื่อง: “พระเอกเก่งที่ถูกไล่ออกและไปประสบความสำเร็จในที่ใหม่”
- เริ่มฉายอนิเมะในเดือนมกราคม 2023
เรื่องราวของชายคนหนึ่งที่ถูกไล่ออกจากกองทัพจอมมาร
และเริ่มต้นชีวิตใหม่ในหมู่บ้านของมนุษย์
ถูกตีพิมพ์ในเว็บไซต์ *Shōsetsuka ni Narō* ระหว่างปี 2018 ถึง 2020
ต่อมามีการดัดแปลงเป็นไลท์โนเวล มังงะ และอนิเมะในปี 2023
เป็นหนึ่งในผลงานยอดนิยมของแนว Narou-kei stories

พากย์เสียงตัวเอกในเวอร์ชันอนิเมะโดย โทโมคาสุ สุงิตะ
ด้วยลายเส้นตลกที่โดดเด่น ทำให้เขาแสดงบทบาทได้ทรงพลังเช่นเคย
(Okazawa Rokujūyon, คณะกรรมการผลิต Chillin’ in My 30s after Getting Fired from the Demon King’s Army, จาก PV)
ครั้งนี้เป็นการรีวิวจากฉบับมังงะ
ความเห็น
คุณภาพโดยรวมสูงในบรรดาเรื่องแนว Narou-kei

นางเอกที่เข้าใจง่ายและถูกใจผู้ชาย ซึ่งก็ไม่ได้แย่อะไรเลย
(Okazawa Rokujūyon, sage・Joe, จาก Chillin’ in My 30s after Getting Fired from the Demon King’s Army, ep1, p31)
มีฉากเซ็กซี่เล็กน้อย ผสมกับความตลกที่น่าสนใจ
ตัวละครมีเอกลักษณ์ ทำให้รู้สึกผูกพัน
ภาพในมังงะวาดอย่างประณีต ตัวละครหญิงก็น่ารักมาก
ในบรรดามังงะที่ดัดแปลงจากเรื่องแนว Narou-kei
บางเรื่องมีจุดที่ไม่สมบูรณ์หรือขัดใจ แต่เรื่องนี้ถือว่าทำได้ดี
แทบไม่มีจุดที่น่าหงุดหงิดหรือเนื้อเรื่องล่ม (สำหรับฉัน)
โดยรวมแล้วถือว่าคุณภาพดีมาก
อ่านสบายเพราะไม่มีฉากโหดร้ายมากนัก

เป็นเรื่องแนว “ถูกขับไล่” แบบที่เห็นกันทั่วไปใน Narou-kei
แต่ไม่มีฉากหนักๆ มากนัก ทำให้อ่านได้อย่างสบายใจ
(Okazawa Rokujūyon, sage・Joe, จาก Chillin’ in My 30s after Getting Fired from the Demon King’s Army, ep1, p7)
แม้พระเอกจะถูกไล่ออกจากกองทัพจอมมาร
แต่เขาไม่ได้ต้องการล้างแค้น
กลับกัน เขายังแสดงความเป็นห่วงอดีตเพื่อนร่วมงานบ้างเป็นบางครั้ง
เรื่องราวดำเนินไปอย่างสงบ ทำให้อ่านได้อย่างผ่อนคลาย
ในทางกลับกัน อาจจะไม่มีความตื่นเต้นลุ้นระทึก
แต่ในเมื่อเป็นเรื่องแนวต่างโลก ก็ถือว่าโอเค
แทนที่จะมีฉากรุนแรงหรือดราม่าหนัก เรื่องนี้เน้นมุกตลกมากกว่า
และมุกตลกที่ใช้ก็ออกแนวเหนือจริงแบบพอดีๆ น่าสนใจทีเดียว
บทสรุป: Narou-kei ที่มีบรรยากาศอบอุ่นและคุณภาพดี
แทบไม่มีฉากรุนแรง บรรยากาศของเรื่องอบอุ่น
แต่ยังคงความเป็น Narou-kei ได้อย่างชัดเจน
เป็นมังงะที่เหมาะจะอ่านหลังเลิกงาน
ไม่เปลืองแรง แต่ให้ความบันเทิงได้อย่างพอดี
เรื่องนี้แหละที่ทำให้รู้สึกว่า
“แบบนี้แหละที่ต้องการ!!”